บ้านสวนต้นน้ำ สวนเกษตรภายใต้แนวคิด “ทำเกษตรเปลี่ยนโลกและโรค” บ้านสวนต้นน้ำเป็นแปลงสวนผลไม้ที่อยู่ใกล้กับ อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และอยู่ใกล้กับหน่วยจัดการต้นน้ำประแสร์ โดยผู้เป็นแม่ ( นางแสวง เพ็ชรแสง ) เข้ามาจับจองพื้นที่ทำกินตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 เริ่มจากปลูกมันสัมปะหลังและได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสวนผลไม้ตั้งแต่ปี 2520 ช่วงแรกๆที่ปลูกมันสัมปะหลังจะใช้ปุ๋ยเคมีกับยาเคมีเป็นหลัก หลังจากเปลี่ยนเป็นสวนผลไม้จึงได้ลดการใช้ปุ๋ยเคมียาเคมีลงโดยได้ใช้ร่วมกับปุ๋ยคอกที่ทำจากมูลสัตว์ต่างๆเช่น มูลวัว,มูลไก่,มูลสุกร,มูลข้างคาว และได้หยุดการใช้ปุ๋ยเคมีและยาเคมีต่างๆอย่างเด็ดขาด ประมาณ ปี 2540 เพราะแม่มีปัญหาสุขภาพเป็นภูมิแพ้ผิวหนังรักษาไม่หายซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีเกษตรแม่จึงหยุดใช้สารเคมี มาใช้ปุ๋ยอินทรีย์โดยเรียนรู้จาก ธกส.ทำปุ๋ยหมักใช้เอง ทำน้ำหมักไล่แมลงใช้เอง หลังจากตนเอง ( น.ส.ญาณี ใจตั้ง ) เข้ามาทำเกษตรแทนแม่จึงได้พัฒนาให้เป็นแปลงเกษตรอินทรีย์ เพราะตนเองให้ความสำคัญต่อการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นที่ตั้ง รวมถึงบ้านสวนต้นน้ำมีพื้นที่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง และอยู่ใกล้กับต้นน้ำประแสร์ ซึ่งการทำเกษตรอินทรีย์เป็นการทำเกษตรที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด กับฟื้นฟูสิ่งแวดได้ดีที่สุด เป็นการลดสารพิษสารเคมีในพื้นลง เพื่อไม่ให้ไปกระทบกับสัตว์ป่าเนื่องจากมีสัตว์ป่าทั้งเล็กและใหญ่ได้แวะเวียนมากัดกินผลไม้ของบ้านสวนต้นไม้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะช้างป่าเข้ามาหากินในบ้านสวนต้นน้ำบ่อยที่สุดบางครั้งก็กินผลไม้แบบหักโคนต้นผลไม้ในสวนซึ่งช้างก็สามารถกินผลไม้ในสวนได้อย่างปลอดภัย และไม่ให้กระทบป่าไม้โดยรอบรวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่อยู่ถัดไปจากต้นน้ำประแสร์ ตนจึงได้นำความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์ที่ตนได้ไปเรียนรู้ในที่ต่างๆมาใช้และได้นำไม้ป่ามาปลูกเป็นแนวกันชนเพื่อให้เข้ากับหลักเกณฑ์ของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และได้ขอมาตฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของผู้บริโภคและผู้คนโดยรอบรวมถึงการทำการตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิต บ้านสวนต้นน้ำต้องการให้ผลผลิตต่างๆของบ้านสวนต้นน้ำทำให้ทุกท่านมีความสุขจากการได้รับประทานและมีความปลอดภัยตลอดการรับประทาน

